ประกาศผลออสการ์ 2017 ใครเซอร์ไพรส์? ใครพลิกโผ? มาดูกัน

สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (Best Picture)
Moonlight

ถึงจะใจร้ายกับ La La Land กับการประกาศผิด ไม่รู้ว่ามุกหรือจริง แต่ Moonlight ก็เป็นอีกหนึ่งหนังน้ำดี ที่ตีแผ่สังคมผิวสี การเหยียดเพศ ซึ่งรางวัลนี้ถือว่าเป็นการตอกหน้าอเมริกาในสถานการณ์ปัจจุบันได้อย่างรุนแรง

สาขาผู้กำกับยอดเยี่ยม (Best Director)
ดาเมียน ชาเซลล์ จากภาพยนตร์เรื่อง La La Land

ด้วยความทะเยอะทะยานในการสร้างหนังเพลงสุดตื่นตาตื่นใจ ด้วยวัยเพียง 32 ปี สร้างสถิติผู้กำกับที่อายุน้อยที่สุด ที่ได้รับรางวัลออสการ์ในสาขาผู้กำกับยอดเยี่ยม

สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม (Best Actor)
เคซี แอฟเฟล็ค จากภาพยนตร์เรื่อง Manchester by the Sea

กวาดรางวัลมาเกือบทุกเวทีแล้ว สำหรับบทตัวละครหน้าตาย หน้าชา ที่เล่นได้อย่างลุ่มลึกชวนน่าสงสารมากที่สุดในปีนี้

สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม (Best Actress)
เอมมา สโตน จากภาพยนตร์เรื่อง La La Land

เป็นปีที่นักแสดงนำหญิงลุ้นสุดๆ เพราะเต็งกันหลายคนทั้ง แต่การแสดงทั้งร้องเล่นเต้นของ Emma Stone น่าจะเป็นที่ถูกใจของกรรมการออสการ์ ที่เธอทุ่มเทฝึกซ้อมอย่างหนักเกือบปี และผลที่ได้คือความเจิดจรัสโดดเด่นจนเป็นขวัญใจมหาชนไปแล้วในเวลานี้

สาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม (Best Supporting Actor)
มาเฮอร์ชาลา อาลี จากภาพยนตร์เรื่อง Moonlight บทบาท ฮวน

โดดเด่นด้วยการแสดงที่น้อยแต่ได้มาก คือออกมาแค่ 1 ใน 3 ของหนังทั้งหมด แต่มีผลต่อตัวละครหลักอย่างรุนแรง ทำหน้าที่เป็นนักแสดงสมทบได้อย่างสมบทบาทสุดๆ

สาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม (Best Supporting Actress)
วิโอลา เดวิส จากภาพยนตร์เรื่อง Fences บทบาท โรส ลี แม็กซ์สัน

กวาดเรียบมาทุกรางวัล ทุกเวที เคยเข้าชิงออสการ์ 3 ครั้ง แต่พลาดหมด ครั้งที่เป็นทีของเธอซักที ไม่รู้ว่าแสดงดีแค่ไหน เพราะ Fences เหมือนจะยังไม่เข้าไทยนะ

สาขาบทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยม (Best Original Screenplay)
Manchester By the sea

สูสีตีคู่ระหว่าง Manchester By the sea และ La La Land แต่รางวัลก็ยังตกให้บทคุณภาพเยี่ยมสุดร้าวราน ขมขื่น อย่าง Manchester By the sea ซึ่งก็เต็งมาจริงๆ แหละ

สาขาบทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยม (Best Adapted Screenplay)
Moonlight

กวาดรางวัลมาเกือบทุกเวที ด้วยบทสุดลึก เล่าเพศสภาพผ่าน 3 ตัวละคร 3 วัย ได้อย่างคมคายและประทับใจ

สาขาภาพยนตร์แอนิเมชั่นยอดเยี่ยม (Best Animation Feature Film)
Zootopia

ปีนี้เป็นปีที่หนังแอนิเมชั่นสูสี ดีทุกเรื่อง มีสิทธิที่จะชนะทุกเรื่อง แต่ดูเหมือน Zootopia จะเข้าถึงกลุ่มคนทุกเพศวัยได้มากกว่า แถมมีประเด็นที่เข้ากับสังคมอเมริกาในปัจจุบัน

สาขาภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยม (Best Foreign Language Film)
The Salesman (อิหร่าน)

หลังจากที่เต็งหนึ่งอย่าง Elle หลุดออสการ์ไป หนังอิหร่านเรื่องนี้ก็ขึ้นเต็งหนึ่งแทนได้อย่างไม่ยากเย็น ไม่ดีจริงคงไม่เข้าไทยหรอกค่ะ

สาขาดนตรีประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (Best Original Score)
La La Land

กวาดมาหมดทุกเวที ย้ำว่าทุกเวที! เอกฉันทร์ว่ารางวัลนี้นอนมาให้แก่ La La Land แน่นอน ไม่เชื่อไปหา Soundtrack มาฟังด่วน

สาขาเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (Best Original Song)
City of Stars จากภาพยนตร์เรื่อง La La Land

เพลง City of Stars ไม่ใช่เพลงที่เพราะที่สุดในบรรดาผู้เข้าชิง แต่เป็นเพลงที่สื่อความหมายของหนังเรื่องนี้ได้ดีและเข้าถึงอารมณ์มากที่สุด

สาขาบันทึกเสียงยอดเยี่ยม (Best Sound Mixing)
Hacksaw Ridge

เสียงปืน ระเบิด สุดสมจริง ที่ช่วยยกระดับฉากสงครามให้โหดร้ายน่ากลัว เข้าไปดูในโรงนี่นึกว่าเราไปอยู่ในสงครามจริงๆ อย่างใดอย่างนั้น

สาขาลำดับเสียงยอดเยี่ยม (Best Sound Editing)
Arrival

เกินคาด แต่ก็ดีงามสมควร ด้วยเสียงเอเลี่ยนสุดสะพรึงที่สร้างบรรยากาศสุดขนลุก ที่ดึงดูดคนดูให้อยู่กับหนังได้อย่างอยู่หมัด

สาขาออกแบบงานสร้างยอดเยี่ยม (Best Production Design)
La La Land

สุดยอดงานดีไซน์ด้านภาพในจังหวะสุดท้ายของหนัง ตราตรึงใจคนดูทั้งโรง อยากรู้ว่าเจ๋งแค่ไหน ต้องไปพิสูจน์กันเองค่ะ

สาขาถ่ายภาพยอดเยี่ยม (Best Cinematography)
La La Land

งาน Longtake (ถ่ายต่อเนื่องไม่มีการคัตภาพ) คุณภาพตั้งแต่ฉากเปิด แถมถ่ายผ่านได้ในเทคเดียว! ถือเป็นงานที่ท้าทายที่ไม่เทพจริงคงทำไม่ได้

สาขาแต่งหน้าและทำผมยอดเยี่ยม (Best Makeup and Hair styling)
Suicide Squad

พลิกโผเล็กน้อย หลายสำนักคาดว่า Star Trek จะได้ แต่ผลลงที่ Suicide Squad ที่ก็ดีงามไม่แพ้กัน ทั้งการแต่งหน้า ทำผม Joker , Harley Quinn หรือแต่งหน้าจระเข้ก็ทำได้เนียนกริบ

สาขาลำดับภาพยอดเยี่ยม (Best Film Editing)
Hacksaw Ridge

ครึ่งหลังของหนังในฉากสงคราม ตัดต่อได้อย่างโหดสมใจ สงครามสมจริงจนน่าขนลุก ไม่เชื่อลองไปดูค่ะ รับประกันว่ามันส์จนลืมหายใจแน่นอน

สาขาเครื่องแต่งกายยอดเยี่ยม (Best Costume Design)
Fantastic Beasts and Where to find them

เบียดLa La Land และ Jackie ที่ว่าเต็ง ตกรอบไปเลยจ้า กับงาน Costume อังกฤษยุคเก่าพีเรียด ที่ออกแบบได้อย่างปราณีตหมดจด จำลองการแต่งกายของคนอังกฤษยุคสมัยนั้นได้อย่างไม่มีผิดเพี้ยน

สาขาเทคนิคพิเศษยอดเยี่ยม (Best Visual Effects)
The Jungle Book

สาขานี้นอนมาแน่นอน สำหรับงาน CGI ที่ทั้งเรื่อง ทุกต้นไม้ ใบหญ้า สัตว์ป่าทุกชนิด ที่เคลื่อนไหวแสดงสีหน้าท่าทางได้สมจริงสุดๆ กวาดรางวัลมาทุกเวทีแล้ว

CR : imdb, Oubliettemagazine