10 อันดับหนังฮีโร่ Marvel สุดห่วย แฟนโห่ ชาตินี้ไม่ขอดูอีก!!

10. Punisher (2004)

ภาคแรกก็พอถูไถ พอมาภาคสองก็กลายเป็นหนังไร้สาระ ตลก ไม่มีความโดดเด่นผิดแปลกจากการ์ตูนต้นฉบับ แต่แฟนๆไม่ต้องผิดหวัง เพราะเราจะได้เห็น Punisher อีกครั้งในซีรีส์ Daredevil ที่ขอบอกเลยว่าเจ๋งกว่ามาก แถมในไม่ช้า Punisher ก็กำลังจะมีซีรีส์ฉายเดี่ยวของเขาเอง ซึ่งแฟนๆต่างคาดหวังว่าจะลบล้างตราบาปของเวอร์ชั่นหนังออกไปได้

9. Hulk (2003)

Hulk ในเวอร์ชั่นผู้กำกับ Ang Lee ที่รู้จักกันดีกับผลงานสุดยอดเยี่ยมอย่าง Life of Pi และ Crouching Tiger Hidden Dragon แต่อย่าให้เขาได้กำกับหนังซุปเปอร์ฮีโร่เชียวล่ะ เพราะคุณจะได้เห็นยักษ์เขียวที่มีปมด้านจิตใจแต่ไปไม่สุด ฉากบู๊ก็ยังงั้นๆ เดินเรื่องเฉื่อยช้า จะมีดีก็แค่ดนตรีประกอบที่ยังพอบิ๊วอารมณ์ได้บ้าง จะดูก็ได้ไม่ดูก็ไม่เป็นไร

8. Elektra (2005)

หนังฮีโร่หญิงแป้กๆพังๆ ที่มีดีแค่นางเอกสวยสุดแจ่ม แต่เนื้อเรื่องก็ไม่ได้มีอะไรมาก แถมเหตุผลรองรับความเป็นไปก็ยังแปลกๆ พลังฝีมือดูไม่ค่อยน่าเชื่อถือ ถ้าดูเอาแก้เซ็งก็พอได้แหละค่ะ

7. Ghost Rider (2007)

ถึงแม้หนังเรื่องนี้จะขายความดิบเถื่อน ด้วยฮีโร่กระโหลกไฟขี่มอไซต์ควงโซ่สุดเท่ แต่ก็ยังดูเหมือนจะไปไม่ถึง และยังยึดติดกับข้อผิดพลาดแบบเดิมๆ คือเนื้อเรื่องที่แสนจืดชืด มุกตลกก็ไม่โดน ฉากต่อสู้ก็ยังกลางๆ จนแฟนๆกล่าวขานว่าเป็นหนังซุปเปอร์ฮีโร่เกรด B ที่ไม่พรีเมี่ยมเอาซะเลย

6. Daredevil (2003)

ถ้าอยากดู Daredevil แบบเทพๆแนะนำให้ไปดูในซีรีส์ Netflix ดีกว่าค่ะ อย่าเสียเวลากับเวอร์ชั่นนี้เท่าไหร่ เพราะด้วยตัวละครฮีโร่สุดซับซ้อนตัวนี้ ที่ต้องยัดเรื่องราวทั้งหมดในเวลาเพียง 2 ชั่วโมงตามฉบับหนัง ซึ่งเป็นไปได้ยากมากที่จะเล่าให้สนุกครบรส ถึงขนาดนักแสดง Ben Affleck ยังเบือนหน้าหนีไปทำ Batman ของตัวเองแทนดีกว่า

5. X-Men: The Last Stand (2006)

จริงๆภาคนี้เนื้อเรื่องถือว่าน่าสนใจ แถมฉาก CG แอ็คชั่นก็ทำได้ไม่เลว ดูเพลินๆก็สนุกอยู่ แต่จุดผิดพลาดครั้งใหญ่ของ X-Men ภาคนี้คือการเอาตัวละครสำคัญไปฆ่าทิ้งซะจนเนื้อเรื่องวินาศสันตะโรวุ่นวายไปหมด กว่าจะกู้เนื้อเรื่องให้ทำภาคต่อได้ต้องรอภาค X-Men: First Class and Days of Future Past นู่นแหละ

4. Ghost Rider: Spirit of Vengeance (2011)

เห็นภาคแรกพังๆแบบนั้น แต่ถ้าคิดเป็นรายได้ถือว่าทำเงินมากพอสร้างภาคต่อได้เลยทีเดียว และเหมือนจะมีแววว่าจะสนุกขึ้น CG ดูดีขึ้น ฉากแอ็คชั่นก็ดูแปลกใหม่ แต่เอาเข้าจริงเนื้อเรื่องกลับไม่สมเหตุสมผล ฉากแอ็คชั่นชวนหลับจะฆ่าก็ไม่ฆ่ามัวแต่แอ็คท่าเยอะอยู่นั่น แถมตัวละครพระเอกที่ดูสติหลุดๆเหมือนคนติดยาก็ทำให้ไม่น่าเอาใจช่วยเลยซักนิด

3. Fantastic Four (2005)

หนัง Marvel สุดอาถรรพ์ ทำมากี่ภาค รีบูทกี่เวอร์ชั่นก็พังพินาศ โดยเริ่มต้นจากภาคปี 2005 ที่เป็นจุดต่ำตมของ Chris Evans ที่ได้เล่นในหนังเรื่องนี้ ก่อนพ้นเวรกรรมไปแจ้งเกิดใน Captain America ด้วยบทที่ไม่สนุก ช็อต Climax ที่เบาบาง แถมตัวละครทั้ง 4 ตัวไม่สามารถดึงเสน่ห์ความเป็นทีมฮีโร่สุดแกร่งแบบในฉบับการ์ตูนออกมาได้ดีเท่าไหร่

2. The Wolverine (2013)

ยังคงคอนเซ็ปต์ท่าดีทีเหลว ที่ถึงแม้จะเอาตัวละครขายได้อย่าง Wolverine มาชูโรงทำภาคเดี่ยว แต่ก็ยังไม่วายจะเอาฮีโร่ตัวอื่นๆมาฆ่าเล่น หรือลดความเด่นของบทอย่าง Deadpool ที่โผล่มาได้อย่างเสียของ ผิดกับหนังเดี่ยวของเขาเอามากๆ แต่ยังดีที่ล่าสุดหนังภาคต่อในเรื่อง Logan กลับปิดฉากส่งท้าย Wolverine ได้อย่างสวยงามและน่าจดจำ จนกลายเป็นหนัง X-Men ที่ยอดเยี่ยมที่สุดเรื่องหนึ่ง ที่ช่วยกู้หน้าแฟรนไชส์นี้ได้สำเร็จ

1. Fantastic Four (2015)

และ Fantastic Four ภาคล่าสุดที่หวังว่าจะช่วยกู้หน้าล้มอาถรรพ์ลงได้ ปรากฏว่าพอหนังฉายกลับล้มเหลวไม่เป็นท่า ทั้งมิติตัวละครที่แบนราบแม้แต่มิติเดียวยังถ่ายทอดได้อย่างไม่ชัดเจน ฉากแอ็คชั่นสวยๆใน Trailer ที่หายไปในหนังเฉยเลย แถมหนังดูเหมือนรีบทำรีบจบ เนื้อเรื่องขาดๆเกินๆ ตัวร้ายตายง่ายเกิ๊น สูตรสำเร็จหนังล้มเหลว ที่หวังว่าซักวันจะมีพระเอกขี่ม้าขาวมาชุบชีวิตแฟรนไชส์นี้ให้ประสบความสำเร็จเสียทีเถอะ

CR :  wonderslist