เปิดปีอย่างโหด! 10 อันดับหนังใหม่น่าดู เดือนมกราคม 61 ไม่ดูถือว่าพลาด!!

เปิดปี 2561 ด้วย 10 หนังดีกวาดรางวัลประเดิมเดือนมกราคม หนังน่าดู หนังเด็ดแนะนำต้นปีหลากหลายแนวทั้งหนังแอ็คชั่น หนังดราม่าชีวิต หนังการ์ตูนแอนิเมชั่นฝีมือคนไทยที่น่าจับตามอง หรือหนังรางวัลที่จ่อคิวชิงออสการ์สาขา Best Picture รางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมก็ต่างเทใจให้กับตารางหนังเดือนมกราคม ถือว่าเป็นการเปิดศักราชอย่างยิ่งใหญ่น่าเสียเงินเข้าโรงหนังเป็นอย่างยิ่ง จะมีหนังภาพยนตร์น่าดูเรื่องไหนที่คุณสนใจกันบ้าง มาดูกันค่ะ

 

10. Maze Runner The Death Cure

(เข้าฉายวันที่ 25 มกราคม 2561)

หนังปิดไตรภาคภาพยนตร์เขาวงกตสุดอันตราย การเอาชีวิตรอดจากนรกที่ไม่มีใครอยากพบเจอ โดยภาค The Death Cure นี้กลุ่มตัวเอกจะต้องเผชิญหน้ากับภารกิจด่านสุดท้าย ซึ่งเป็นเขาวงกตที่อันตรายมากที่สุดจากบรรดาเขาวงกตทั้งมวลที่เคยผ่านมา ถ้าใครเป็นแฟนหนังหรือหนังสือชุด Maze Runner อยู่แล้วต้องห้ามพลาดเด็ดขาด!

 

9. 12 Strong

(เข้าฉายวันที่ 18 มกราคม 2561)

ภาพยนตร์ที่สร้างจากเรื่องจริงของหน่วยรบพิเศษ 12 คน กับภารกิจลับสุดยอดโดยพวกเขาถูกส่งตัวไปยังอัฟกานิสถานในช่วงเหตุการณ์ 9/11 เพื่อทำการรวมกลุ่มพันธมิตรทำสงครามกับผู้ก่อการร้าย ด้วยวิธีการรบแบบโบราณขี่ม้าแบกปืน ซึ่งนอกจากพาร์ทสงครามที่โดดเด่นแล้ว หนังจะพาเราไปสำรวจชีวิตของคนอัฟกานิสถานกับมุมมองที่เกิดขึ้นกับเหตุการณ์นี้อย่างรอบด้านอีกด้วย

 

8. Goodbye Christopher Robin

(เข้าฉายวันที่ 4 มกราคม 2561)

และนี่คือภาพยนตร์ที่จะเล่าที่มาของสุดยอดวรรณกรรมเยาวชนที่คนทั่วโลกรู้จักอย่าง “Winnie-the-Pooh” ซึ่งจะเล่าเรื่องของนักเขียน “เอ.เอ.มิลน์” ที่ได้ถูกพิษของสงครามโลกครั้งที่ 1 หลอกหลอนอย่างหนัก และได้แต่งนิยายเรื่องนี้จากแรงบันดาลใจและความฝันของลูกชาย คริสโตเฟอร์ โรบิน จนออกมาเป็นการผจญภัยของหมีพูห์และผองเพื่อน ที่ช่วยปลอบประโลมชาวอังกฤษในช่วงหลังสงคราม แต่เรื่องราวกลับยิ่งใหญ่โตขึ้นไปอีก เมื่อวรรณกรรมชุดนี้เป็นที่รู้จักและโด่งดังถึงขีดสุด กลับสร้างผลกระทบทางจิตใจแก่ครอบครัวของเขาอย่างใหญ่หลวงเลยทีเดียว

 

7. The Commuter

(เข้าฉายวันที่ 11 มกราคม 2561)

หากใครที่คิดถีงลีลาการบู๊ล้างผลาญสุดมันส์ของ เลียม นีสัน ต้องไม่พลาดเรื่อง The Commuter หนังแอ็คชั่นเขย่าขวัญลุ้นระทึก และการแก้ปริศนาบนรถไฟที่เต็มไปด้วยบรรยากาศที่ไม่น่าไว้วางใจ เมื่อวันหนึ่งหญิงสาวลึกลับมายื่นข้อเสนอให้เขาหาตัวผู้ร้ายเพียงหนึ่งเดียวในขบวนรถไฟในเวลาที่กำหนด ซึ่งเดินพันด้วยความเป็นความตายของผู้โดยสารทั้งขบวน

 

6. The Square

(เข้าฉายวันที่ 11 มกราคม 2561)

บอกได้เลยว่าหนังสวีเดนที่ชนะรางวัลสาขาภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยม จากเทศกาลเมืองคานส์ ไม่ได้มีมาฉายให้ดูกันง่ายๆ นะจ๊ะ ว่าด้วยเรื่องราวสุดพิลึกกึกกือแสบสัน ของหอศิลปะ X Royal ที่ต้องการโปรโมทงานศิลปะชิ้นใหญ่ที่ยากเกินความเข้าใจ จึงได้จ้างทีมเอเจนซี่สุดติสท์มาช่วยโปรโมท งานนี้คุณผู้ชมจะได้สัมผัสประสบการณ์สุดกาว ทั้งงานกองดิน ลิงเดินเพ่นพล่าน สงครามถุงยาง ที่เต็มไปด้วยความขำขันพิลึกเกินกว่าจะจินตนาการ

Advertisements

 

5. Insidious The Last Key

(เข้าฉายวันที่ 4 มกราคม 2561)

เตรียมหลอนหลอกขนลุกตั้งแต่ต้นปีกับ Insidious วิญญาณที่ตามติดมาถึงภาคที่ 4 กันแล้วกับภาค The Last Key ที่จะเล่าย้อนอดีตของ ป้าร่างทรงเอลีส (ที่ตายตอนภาคแรก) กับการไปเยือนโลกหลังความตายที่ลึกที่สุด เพื่อไขกุญแจไปยังสถานที่ที่มีสุดยอดปีศาจร้ายแฝงกายอยู่ ณ ที่แห่งนั้น! ใครคอหนังสยองขวัญและเป็นแฟนหนัง Insidious อยู่แล้วห้ามพลาด!

 

4. ๙ ศาสตรา

(เข้าฉายวันที่ 11 มกราคม 2561)

และนี่คือหนึ่งในภาพยนตร์แอนิเมชั่น งานเนี๊ยบฝีมือคนไทย ที่สร้างเสียงฮือฮาหลายคนตั้งหน้าตั้งตารอดูมากที่สุดตั้งแต่เมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว ทั้งงานภาพ งานเสียง งานเทคนิค CG เนื้อเรื่องที่สร้างสรรค์ออกมาได้น่าดูมากๆ ว่าด้วยการผจญภัยของ “อ๊อด” เพื่อตามหาศาสตราวุธ ๙ ศาสตรา เพื่อใช้กอบกู้อาณาจักร “รามเทพนคร” ให้รอดพ้นจากอำนาจชั่วร้ายของ “เทหะยักษา” รับรองว่านี่จะการ์ตูนแอนิเมชั่นฝีมือคนไทยที่ยิ่งใหญ่ตระการตาที่สุด และอาจจะพลิกโฉมวงการภาพยนตร์ไทยไปตลอดกาลเลยก็ได้

 

3. The Florida Project

(เข้าฉายวันที่ 25 มกราคม 2561)

หนึ่งในภาพยนตร์ตัวเต็งรางวัลออสการ์ ผลงานดราม่าจากผู้กำกับ Tangerine (หนังที่ใช้ไอโฟน 5s ถ่ายทำทั้งเรื่องนั่นแหละ) โดยคราวนี้เขาหันมาจับกล้องถ่ายหนังของจริง เขียนบทเอง ตัดต่อเอง จนกลายเป็นผลงานดราม่าหวานเย็นรสขมในสไตล์ภาพสีสันฉูดฉาดงดงามราวกับภาพวาด ว่าด้วยความแตกต่างระหว่างเด็กๆ ที่ใช้ชีวิตอยู่กับโลกแห่งจินตนาการ และบรรดาผู้ใหญ่ที่ต้องใช้ชีวิตในโลกความจริงอย่างลำบากเพื่อความสุขของลูก

 

2. The Shape of Water

(เข้าฉายวันที่ 18 มกราคม 2561)

หนึ่งในภาพยนตร์ตัวเต็งรางวัลออสการ์เช่นกัน ว่าด้วยเรื่องราวสุดแปลกพิลึกพิลั่นของภารโรงสาวผู้เป็นใบ้ ซึ่งเธอทำงานรักษาความสะอาดอยู่ในห้องแล็ปลับสุดยอดของรัฐบาลที่ได้ทำการทดลองพัฒนา “สัตว์ประหลาดใต้น้ำ” ด้วยวิธีการสุดโหดร้ายทารุณ เธอจึงมีความคิดที่จะช่วยเหลือสัตว์ประหลาดตัวนี้ออกมาจากห้องแล็ปนรก จนก่อให้เกิดความสัมพันธ์ต้องห้ามระหว่าง “มนุษย์” และ “อมนุษย์” ที่สุดแสนลึกซึ้งยากเกินจะบรรยาย

 

1. Darkest Hour

(เข้าฉายวันที่ 11 มกราคม 2561)

หนึ่งในภาพยนตร์ตัวเต็งรางวัลออสการ์ที่น่าดูมากที่สุด เรื่องราวสุดลุ้นระทึกตื่นเต้นที่สร้างจากเรื่องจริงจากช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ในสมัยนายกรัฐมนตรีอังกฤษคนสำคัญ ที่ได้รับการยกย่องมากที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์อย่าง “วินสตัน เชอร์ชิล” ผู้ที่ยืนหยัดต่อสู้กับสงครามเพื่อชัยชนะและอิสรภาพของประเทศ จากเงื้อมมือของกองทัพนาซีอันเกรียงไกร ท่ามกลางเสียงคัดค้านของประชาชน พรรคการเมือง และกษัตริย์ ที่มีท่าทียอมจำนนศิโรราบต่อกองทัพนาซีเสียแล้ว

Advertisements

Advertisements

Advertisements